ภัทรา นิคมานนท์ (2542:67) กล่าวว่า ผู้วิจัยจะต้องคำนวณงบประมาณค่าใช้จ่ายต่างๆที่จำเป็นต้องใช้ในการทำวิจัยตลอดโครงการตามความเป็นจริงเพื่อจะได้จัดเตรียมไว้ลวงหน้าเพื่องานวิจัยจะได้ไม่ชะงักภายหลัง
พิสณุ ฟองศรี (2549:50) กล่าวว่า งบประมาณเป็นปัจจัยที่สำคัญอีกประการหนึ่งของการวิจัย ถ้าเป็นการเสนอโครงการวิจัยเพื่อขอรับทุนจากแหล่งต่างๆ ก็ต้องกำหนดงบประมาณให้พอเหมาะ เพราะถ้ากำหนดน้อยเกินไปจะทำให้ใช้จ่ายไม่พอ แต่ถ้ามากเกินไปอาจไม่ได้รับทุนต้องคิดคำนวณให้รอบคอบ
http://blog.eduzones.com/jipatar/85921 ได้รวบรวมไว้ว่า การกำหนดงบประมาณค่าใช้จ่ายเพื่อการวิจัย
ควรแบ่งเป็นหมวดๆ ว่าแต่ละหมวดจะใช้งบประมาณเท่าใด การแบ่งหมวดค่าใช้จ่ายทำได้หลายวิธี
ตัวอย่างหนึ่งของการแบ่งหมวด คือ แบ่งเป็น 8 หมวดใหญ่ๆ
ได้แก่
1.
เงินเดือนและค่าตอบแทนบุคลากร
2.
ค่าใช้จ่ายสำหรับงานสนาม
3.
ค่าใช้จ่ายสำนักงาน
4.
ค่าครุภัณฑ์
5.
ค่าประมวลผลข้อมูล
6.
ค่าพิมพ์รายงาน
7.
ค่าจัดประชุมวิชาการ
เพื่อปรึกษาเรื่องการดำเนินงาน หรือเพื่อเสนอผลงานวิจัยเมื่อจบโครงการแล้ว
8.
ค่าใช้จ่ายอื่นๆ
อย่างไรก็ตาม
แหล่งทุนสนับสนุนการวิจัยแต่ละแห่งอาจกำหนดรายละเอียดของการเขียนงบประมาณแตกต่างกัน ผู้ที่จะขอทุนวิจัยจึงควรศึกษาวิธีการเขียนงบประมาณของแหล่งทุนที่ตนต้องการขอทุนสนับสนุน
และควรทราบถึงยอดเงินงบประมาณสูงสุดต่อโครงการที่แหล่งทุนนั้นๆ จะให้การสนับสนุนด้วย
เนื่องจากถ้าผู้วิจัยตั้งงบประมาณไว้สูงเกินไป โอกาสที่จะได้รับการสนับสนุนก็จะมีน้อยมาก
สรุปได้ว่า ผู้วิจัยจะต้องคำนวณงบประมาณค่าใช้จ่ายต่างๆที่จำเป็นต้องใช้ในการทำวิจัยตลอดโครงการตามความเป็นจริงเพื่อจะได้จัดเตรียมไว้ลวงหน้าเพื่องานวิจัยจะได้ไม่ชะงักภายหลัง
ที่มา
พิสณุ ฟองศรี. (2553). วิจัยทางการศึกษา.พิมพ์ครั้งที่ 7.กรุงเทพฯ : ด่านสุทธาการพิมพ์ จำกัด.
ภัทรา
นิคมานนท์.(2542).ความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับการวิจัย.พิมพ์ครั้งที่
2.กรุงเทพฯ:อักษราพิพัฒน์
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น