ภัทรา นิคมานนท์ (2542:67) กล่าวว่า ผู้วิจัยจะต้องมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับรูปแบบของการวิจัยเป็นอย่างดีเสียก่อนว่าการวิจัยแต่ละประเภทมีวัตถุประสงค์ของการวิจัยเพื่ออะไร
มีกระบวนการวิจัยอย่างไร และมีข้อจำกัดอะไรบ้าง
รูปแบบการวิจัยที่น่าสนใจมีหลายรูปแบบ ได้แก่
1.การวิจัยเชิงประวัติศาสตร์
เป็นการวิจัยที่มุ่งค้นหาข้อเท็จจริงหรือปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นและผ่านพ้นมาแล้วในอดีต
เพื่อนำไปสู่การศึกษาแนวโน้มในอนาคต โดยใช้ข้อมูลเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงของทฤษฎี
เหตุการณ์หรือปรากฏการณ์ในอดีตเป็นตัวพยากรณ์
ข้อมูลจากการวิจัยเชิงประวัติศาสตร์สามารถนำมาสร้างมาตรฐานเพื่อปรับปรุงงานในปัจจุบันได้
2.การวิจัยเชิงพรรณนา
เป็นการวิจัยที่มุ่งอธิบายลักษณะหรือปรากฏการณ์ที่เป็นอยู่ในปัจจุบันว่าคืออะไร
มีสภาพความเป็นจริงอย่างไร ผลที่เกิดขึ้นมีสาเหตุมาจากอะไร
โดยศึกษาถึงสถานภาพของเหตุการณ์หรือปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน
แล้วนำมาพิจารณาถึงเหตุการณ์หรือปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นๆเพื่อหาคำอธิบายที่ถูกต้อง
ข้อค้นพบที่ได้จากการวิจัยเชิงพรรณนานำมาสร้างมาตรฐานหรือเกณฑ์ปกติ และรูปแบบของปรากฏการณ์หรือเหตุการณ์ต่างๆ
เพื่อใช้ในการเปรียบเทียบต่อไปได้
3.การวิจัยการทดลอง เป็นการศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างเหตุและผล
โดยใช้วิธีการให้กลุ่มตัวอย่างได้มีกิจกรรมตอบสนอง ภายใต้สถานการณ์ที่กำหนดให้
การสรุปผลใช้วิธีเปรียบเทียบกับกลุ่มที่ไม่ได้อยู่ภายใต้เงื่อนไขนั้น
พิสณุ ฟองศรี (2549:85) กล่าวว่า รูปแบบการวิจัยเป็นแผนโครงสร้างการวิจัยต่างๆ
เช่น เกี่ยวกับวิธีการวิจัย กลุ่มตัวอย่าง และสถิติที่จะใช้ ฯลฯ
ตามความเหมาะสมที่จะช่วยให้การวิจัยบรรลุวัตถุประสงค์
http://btananuwat.tripod.com/ete493/defind.pdf ได้รวบรวมไว้ว่า
รูปแบบการวิจัยหมายถึง ขอบข่ายของการวิจัยที่แสดงถึงแบบจำลองของการจัดกระทำตัวแปรในการวิจัย
เพื่อให้ได้คำตอบบรรลุจุดมุ่งหมายของการวิจัยอย่างถูกต้องสมบูรณ์
รูปแบบของการวิจัยสามารถแยกออกได้เป็น 2 รูปแบบใหญ่ๆ คือ รูปแบบการวิจัยเชิงคุณภาพ และรูปแบบการวิจัยเชิงปริมาณ ซึ่งรูปแบบการวิจัยเชิงปริมาณ
สามารถจำแนกการวิจัยออกเป็นประเภทใหญ่ๆ ได้ 2 ประเภท คือ การวิจัยเชิงพรรณนา
และการวิจัยเชิงทดลอง
สรุปได้ว่า รูปแบบการวิจัย หมายถึง ขอบข่ายของการวิจัยที่แสดงถึงแบบจำลองของการจัดกระทำตัวแปรในการวิจัย
เพื่อให้ได้คำตอบบรรลุจุดมุ่งหมายของการวิจัยอย่างถูกต้องสมบูรณ์ รูปแบบการวิจัยที่น่าสนใจมีหลายรูปแบบ ได้แก่
การวิจัยเชิงประวัติศาสตร์ การวิจัยเชิงพรรณนา การวิจัยการทดลอง เป็นต้น
ที่มา
ภัทรา นิคมานนท์.(2542).ความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับการวิจัย.พิมพ์ครั้งที่ 2.กรุงเทพฯ:อักษราพิพัฒน์
พิสณุ ฟองศรี. (2553). วิจัยทางการศึกษา.พิมพ์ครั้งที่ 7.กรุงเทพฯ : ด่านสุทธาการพิมพ์ จำกัด.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น